เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน

โครงการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดพิษณุโลก เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เพื่อช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ลุ่มน้ำแควน้อยตอนล่างท้องที่ประสบปัญหาอุทกภัย รวมทั้งเป็นแหล่งน้ำสำหรับการเพาะปลูกทั่วไปฤดูฝนและฤดูแล้ง ตลอดจนสำหรับการอุปโภค-บริโภค มีพื้นที่อ่างเก็บน้ำที่ระดับกักเก็บ 61.39 ตารางกิโลเมตร ความจุอ่าง 769 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งน้ำให้พื้นที่การเกษตร 155,166 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอวัดโบสถ์ อำเภอวังทอง อำเภอเมืองพิษณุโลก และอำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลกกั้นแม่น้ำแควน้อย

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2525 2/2525 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดเขื่อนนเรศวร และทรงเยี่ยมราษฎร ณ บริเวณเขื่อนนเรศวร บ้านหาดใหญ่ ตำบลพรหมพิราม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก และได้พระราชทานแนวพระราชดำริ ให้วางโครงการและก่อสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำแควน้อยโดยเร่งด่วน เพื่อการบรรเทาอุทกภัยในเขตลุ่มน้ำแควน้อยตอนล่าง และจัดหาน้ำสนับสนุนโครงการชลประทานพิษณุโลก และโครงการชลประทานเจ้าพระยาใหญ่ ให้ได้ผลอย่างสมบูรณ์ และเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2538 ณ ศาลาสิตาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า

“...ส่วนที่พิษณุโลกก็มีน้ำไหลลงมาจากข้าง ๆ อีกสายหนึ่ง แควน้อยซึ่งจะต้องทำ...อันนี้ก็ยังไม่ได้ทำ ซี่งจะต้องทำ เพื่อเก็บกักน้ำที่มาจากอำเภอชาติตระการ อาจจะมีคนค้านว่าทำไมทำเขื่อนพวกนี้แล้วมีประโยชน์อะไร ก็เห็นแล้วประโยชน์ของเขื่อนใหญ่เขื่อนนี้ ถ้าไม่มี 2 เขื่อนนี้ ที่นี่น้ำจะท่วมยิ่งกว่า จะไม่ท่วมเพียงแค่นี้ จะท่วมทั้งหมด...”

หลังจากได้มีแนวพระราชดำริก็ได้มีการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ รวมทั้งการออกแบบรายละเอียดโครงการจนแล้วเสร็จเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2545 และได้ผ่านการพิจารณาตามขั้นตอนของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ มีมติเห็นชอบรายงาน เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2545 และคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้เริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการเขื่อนแควน้อย ในวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2546 และมอบหมายให้กรมชลประทานวางแผนงานที่จะดำเนินการก่อสร้างในปี 2546 - 2554 ระยะเวลาดำเนินการ 9 ปี โดยในปี 2546 จะขอใช้งบประมาณจาก สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) และใช้งบประมาณปกติก่อสร้างโครงการในปีต่อ ๆ ไปจนแล้วเสร็จ

เมื่อการก่อสร้างดำเนินมาถึงจุดที่สามารถพร้อมที่จะทำหน้าที่กับเก็บน้ำได้แล้วนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินไปในพิธีเริ่มการกักเก็บน้ำเขื่อนแควน้อย เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ต่อมาเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานนามเขื่อนนี้เพิ่มเติมว่า เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน หมายถึง เขื่อนแควน้อยที่ทำให้มีความเจริญในพื้นทื่

เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์และพร้อมใช้งานในปี พ.ศ. 2554 และในวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินออกจากอาคารโรงพยาบาลศิริราช มาที่ท่าเทียบเรือ ประทับเรือพระที่นั่งอังสนา ล่องไปตามแม่น้ำเจ้าพระยาโดยเรือพระที่นั่งมาจอดเทียบท่าและขึ้นประทับที่เกาะเกร็ด และใน เวลา 19.50 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงวางพระหัตถ์ บนแท่นตราสัญลักษณ์โครงการ เป็นการเปิดโครงการชลประทาน 5 โครงการ (1. โครงการพัฒนาลุ่มน้ำพนังตอนบน จังหวัดกาฬสินธ์ 2. โครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำ จังหวัดนครพนมและจังหวัดสกลนคร 3. โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง 4. เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และ 5. เขื่อนขุนด่านปราการชล) พร้อมกันทั่วประเทศ ผ่านระบบวิดีโอลิ้งก์

ที่ตั้งโครงการ

         เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่บนแม่น้ำแควน้อย อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก มีลักษณะเป็นเขื่อนหินถมดาดหน้าด้วยคอนกรีต ความสูง 75 เมตร ความยาว 681 เมตร อาคารโรงไฟฟ้าที่ กฟผ. จะใช้ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ตั้งอยู่บนฝั่งซ้ายของเขื่อนแควน้อยบริเวณท้ายน้ำของ River Outlet

ลักษณะเขื่อนและโรงไฟฟ้า

อุทกวิทยา

พื้นที่รับน้ำ 4,254 ตารางกิโลเมตร
ปริมาณน้ำท่าเฉลี่ย 1,449 ล้าน ลบ.ม./ปี

อ่างเก็บน้ำ

ระดับเก็บกักปกติ 130.00 ม.รทก.
ระดับเก็บกักต่ำสุด 90.00 ม.รทก.
ความจุอ่างเก็บน้ำที่ระดับกักเก็บปกติ 769 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนปิดลำน้ำเดิม

ประเภท เขื่อนหินถมดาดหน้าด้วยคอนกรีต
ความสูง 75 เมตร
ความยาว 681 เมตร

อาคารโรงไฟฟ้า

ประเภท โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก
ความยาว 30.5 เมตร
ความกว้าง 33.4 เมตร
ความสูง 14.2 เมตร

เครื่องกำเนิดไฟฟ้า

กำลังผลิตติดตั้ง 30 เมกะวัตต์
กำลังผลิตติดตั้งต่อเครื่อง 15 เมกะวัตต์
จำนวน 2 เครื่อง
ระบบส่งไฟฟ้า 22 กิโลโวลต์
พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยรายปี 146.6 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง

ที่ตั้ง หมู่ที่ 4 บ้านเขาหินลาด ตำบลคันโช้ง อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก